Chat with us, powered by LiveChat ประวัติ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าสุดอันตรายความเร็วสูง | สมัคร sbobet asia แทงบอลออนไลน์ โบนัส100%

ประวัติ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าสุดอันตรายความเร็วสูง

slalah-history-sbobetstep

หากจะพูดถึงนักเตะที่กำลังมีฟอร์มการเล่นร้อนแรง ชั่วโมงนี้ต้องนึกถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ว่ากันว่าเป็นนักเตะที่แทบจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ เพราะเขาคือนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงเป็นที่น่าจับตามองมากที่สุดใน พ.ศ. นี้ การันตีโดยการพาทีมชาติไปบอลโลกในรอบ 16 ทีม สุดท้ายเป็นครั้งแรกของประเทศชาติอีกด้วย

ชื่อเต็ม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เกิดวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1882 อายุ 26 ปี เป็นคนสัญชาติ อิยิปต์ มีส่วนสูงอยู่ที่ 175 ซม. เล่นในตำแหน่ง กองหน้า

ประวัติการเข้าสู่วงการฟุตบอล

ซาลาห์ เริ่มเล่นฟุตบอลเป็นครั้งแรกให้กับชุดเยาวชนของ เอล โมคารูม เป็นทีมในลีกของอียิปต์ ต่อมาเจ้าตัวได้โชว์ฟอร์มการเล่นได้ดีจนไปเข้าตาแมวมองจากทีม บาเซิ่ล ทีมใหญ่จากสวิตเซอร์แลนด์ ต่อมา ซาลาห์ มีพัฒนาการในการเล่นฟุตบอลที่ดีเยี่ยมมากขึ้นจนมีแมวมองจากหลายลีกพร้อมที่จะดึงตัวเขามาร่วมทีม ทำให้ช่วงนั้นเจ้าตัวได้ย้ายไปอยู่ทีมใหม่ๆ อีกหลายทีมหลายลีกด้วยกัน จนกระทั่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้กลายมาเป็นยอดนักเตะคนสำคัญของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ยอดทีมยักษ์ใหญ่ของสโมสรพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่มีฉายาว่า หงส์แดง “ลิเวอร์พูล”

เส้นทางการเป็นนักเตะอาชีพ

เอล โมคารูน  ในปี 2006-2012

เมื่อ ซาลาห์ มีการพัฒนาการฝีเท้าได้เป็นอย่างดีในชุดของทีมเยาวชนของ เอล โมคารูม ที่อยู่มานานถึง 4 ปี จนได้มีโอกาสลงแข่งในลีกสูงสุดโดยที่เจ้าตัวลงประเดิมสนามวันที่ 3 มิ.ย. 2010 ถึงแม้จะได้ลงในฐานะตัวสำรองก็ตาม ในนัดหลังๆ ผ่านมาเขาก็ได้รับโอกาสลงสนามบ่อยมากขึ้น จนสามารถปลดล็อกประตูแรกให้กับตัวเองได้สำเร็จ

ในช่วงฤดูกาลปี 2011-2012 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็ได้รับความไว้วางใจได้ลงเป็นตัวจริงในที่สุด แถมยังโชว์ฟอร์มได้ดี แต่ในเกมนัดนั้นก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อกองเชียร์เกิดการทะเลาะวิวาทกันขั้นรุนแรง จึงส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 74 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 500 ราย ทำให้สมาคมฟุตบอลของอียิปต์ได้ทำการตัดสินใจที่จะยกเลิกการแข่งขันทั้งหมดของซีซั่นนี้กันเลยทีเดียว

บาเซิ่ล ในปี 2012-2013

หลังจากการเกิดเหตุโศกนาฏกรรมดังกล่าวจบลง ก็มีทีมในศึกสวิต ซูเปอร์ลีก อย่าง บาเซิ่ล ได้มาเยือนและลงเตะรอบอุ่นเครื่องกับทีมชาติอียิปต์อีกครั้ง ในชุด U23 ซึ่งมันเป็นนัดที่มีรายชื่อของ ซาลาห์ ในรายการลงเตะอยู่พอดิบพอดี ซึ่งในนัดนี้ ซาลาห์ ก็โชว์ฟอร์มได้เป็นอย่างดีโดยการยิ่งประตูให้กับทีมชาติอียิปต์ไป 2 ประตูทำให้จบเกม อียิปต์เอาชนะ บาเซิ่ล ไปได้อย่างหวุดหวิดด้วยสกอร์ 4-3 หลังจากที่การแข่งขันจบลงก็ส่งผลให้ ซาลาห์ ถูกซื้อตัวจาก บอร์ดบริหารของบาเซิ่ลทันทีและประกาศการคว้าตัว ซาลาห์ มาได้สำเร็จในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 2012 ด้วยระยะการทำสัญญาระยะยาวนานถึง 4 ปี

ต่อมา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็สามารถทำสกอร์แรกให้กับตัวเองได้ในวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 2012 ถึงแม้ว่าเขาจะพาทีมลุยบอลยุโรปได้ไม่สำเร็จ แต่ก็ยังมีผลงานในลีก โดยการมีส่วนร่วมในการคว้าตำแหน่งแชมป์ลีกมาครอบครองได้สำเร็จ เรียกได้ว่าช่วงนั้น นักเตะสัญชาติอียิปต์คนนี้เป็นปีกตัวจี๊ดที่มีบทบาทและน่าจับตามองมากที่สุดในเวลานั้นก็ว่าได้

ในฤดูกาล 2013-2014 ซาลาห์ เริ่มต้นซีซั่นใหม่ได้ดี โดยการคว้าแชมป์อูเรน คัพ และยังสามารถทำสกอร์ให้กับทีมได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมามีปัญหาในนัดที่ไปเยือน มัคคาบี้ เทล อาวีฟ เป็นทีมที่มาจากประเทศอิสราเอล ซึ่งในนัดดังกล่าวทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดันไม่ได้จับมือกับนักเตะเจ้าบ้านเนื่องจากเป็นปัญหามาจากเรื่องของเชื้อชาติ ทำให้แข่งอียิปต์กลายเป็นที่จับตามองของเป็นพิเศษ จนทำให้ทางต้นสังกัดต้องเยือนมือเข้ามาปรับความเข้าใจกับ ซาลาห์ จนทำให้ปัญหาคลี่คลายไปได้ด้วยดี

หลังจากที่  ซาลาห์ โชว์ฟอร์มเก่งได้อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการมีผลงานเด่นๆ อย่างการคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก จนไปเข้าตายอดทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปอยู่หลายทีม จนในที่สุดทีมเชลซี ยักษ์ใหญ่ในศึกพรีเมียร์ ลีก ก็สามารถคว้าตัวซาลาห์มาร่วมทัพได้สำเร็จ

เชลซี ในปี 2013-2014

ในวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2014 ยอดทีม เชลซี ได้ออกมาประกาศการคว้าตัวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้สำเร็จด้วยค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 11 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 478 ล้านบาท โดยการลงสนามในนัดแรกของเจ้าตัวก็พาทีมเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ไปได้ถึง 3-0 และมาได้ประตูแรกในการพบกับ อาร์เซน่อล ด้วยสกอร์ที่ชนะแบบขาดลาย 6-0 ถือว่าเป็นนักเตะที่มีส่วนกับทีมได้ดีเลยทีเดียว

ในฤดูกาล 2014-2015 หลังจากที่มีการเล่นไปได้ดีกับทีม สิงห์บลูส์ ซาลาห์ ก็ต้องมาพบกับปัญหาเรื่องทางการทหารจนทำให้เขาต้องกลับมาอยู่บ้านเกิด ส่งผลให้เจ้าตัวมีโอกาสในการลงเล่นได้น้อยลง จนในที่สุดเขาก็ต้องตกมาเป็นนักเตะสำรอง ทำให้ ซาลาห์ ทนไม่ไหวจึงได้ย้ายไปอยู่กับ ทีมฟิออเรนติน่า (Fiorentina) ทีมจากเซเรีย อา อิตาลี ในสัญญานักเตะยืมตัว

สำหรับการลงประเดิมนัดแรกของเขากับ ฟิออเรนติน่า ทำให้ ซาลาห์ ได้โชว์ประสิทธิภาพด้วยการซัดประตูแรกและยังสามารถทำแอสซิลต์จนพาทีมคว้าชัยชนะเหนือ ซัสซัวโล่ ด้วยสกอร์ 3-1 หลังจากนั้น ซาลาห์ ยังได้ช่วยทีมโดยการล้มยักษ์ อย่าง สเปอร์ส ด้วยสอร์ 3-1 จนทำให้ทางทีมฟิออเรนติน่า พยายามจะดึงตัวเขาด้วยการเซ็นสัญญาอย่างถาวร แต่ทางเจ้าตัวก็ได้ปฏิเสธเพราะเขาคิดจะไปอยู่กับ โรม่า ทีมคู่แข่งอยู่แล้ว

โรม่า ในปี 2015-2016

หลังจากที่ได้ย้ายมาอยู่กับ ทีม โรม่า “หมาป่าเหลือง-แดง” แล้ว ด้วยราคาค่าตัวอยู่ที่ 15 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 652 ล้านบาท และเขาก็ได้ทำผลงานให้กับทีมทันทีโดยการช่วยทีมให้รอดพ้นจากความพ่ายแพ้โดยการไล่ตีเสมอ ซัสซัวโล่ ได้สำเร็จ ด้วยสกอร์ 2-2 และก็ยังซัดประตูใส่ทีมอื่นอยู่เรื่อยๆ จนมาถึงอดีตทีมเก่าอย่าง ทีมฟิออเรนติน่า (Fiorentina) เจ้าตัวก็ได้ทำแสบกับทีมเก่าโดยการทำประตูขึ้นนำและเป็นประตูชัยก่อนที่จะถูกไล่ออกจากสนามในช่วงท้ายเกม จากผลงานที่ทำให้กับทีม โรม่า เจ้าตัวได้ทำประตูให้กับทีมไปทั้งหมด 15 ประตู และ 6 แอสซิลต์

ลิเวอร์พูล ในปี 2016-2017

ด้วยผลงานที่โดดเด่นทำให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถูกทีมยัก์ใหญ่ จากลีกอังกฤษ อย่างทีม หงส์แดง “ลิเวอร์พูล” ยืนข้อเสนอให้กับ โรม่า โดยการขอซื้อตัวด้วยราคาสูงถึง 42 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 1827 ล้านบาท นับว่าเป็นการทุบสถิติของสโมสรเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ ซาลาห์ ได้เล่นให้กับทีม หงส์แดง ก็ไม่ทำให้แฟนๆ บอลผิดหวัง เพราะเจ้าตัวได้โชว์ฟอร์มการเล่นได้สมกับค่าตัวเป้นอย่างดี จนทำให้เขากลายเป็นความหวังของทีม ลิเวอร์พูล เป็นที่เรียบร้อย