เปิดประวัติ กวิน บินได้บินไกลถึงเบลเยียม

นักเตะนายทวารทีมชาติไทยที่ได้รับฉายาว่า กวินบินได้ มีชื่อจริงว่า กวินทร์ นามสกุล ธรรมสัจจานันท์ มีชื่อเล่นว่า ตอง เกิดวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2533 สถานที่เกิด เมืองกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ ส่วนสูง 183 ซม. อาชีพ นักฟุตบอลมืออาชีพ ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู

กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย ที่เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู ซึ่งในปัจจุบันได้ไปเล่นให้กับสโมสรโอฮา เลอเฟินในประเทศเบลเยียม ซึ่งกว่าที่กวินจะมาถึงจุดนี้ได้ เขาต้องผ่านการเล่นให้กับทีมชาติและสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ปี พ.ศ. 2551 เป็นปีที่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้เลื่อนชั้นมาเล่นในไทยพรีเมียร์ลีก ทำให้ในช่วงนั้น กวิน ได้ใช้ความสามารถและทักษะจนทำเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมไปคว้าแชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกของทางสโมสร ซึ่งช่วงนั้นกวินได้แสดงความสามารถในการเป็นผู้รักษาประตูได้เป้นอย่างดีกับทางสโมสร จนทำให้ได้ยึดตำแหน่งผู้รักษาประตูตัวหลักอย่างเต็มตัว และด้วยความว่องไวในการกระโดดคว้าบอลและปัดบอลเพื่อป้องกันประตูได้อย่างน่าทึ่งทำให้ แฟนบอล ได้ตั้งฉายาให้เขาว่า “เทพกวินทร์ บินได้” เมื่อเรียกต่อๆ กันมาเรื่อยๆ จนกลายเป็น “กวิน บินได้” นั่งเอง

หลายคนคงสงสัยว่าทำไม กวิน ถึง เขียนไม่เหมือนกันในแต่ละครั้ง เนื่องมาจากในปี พ.ศ. 2556 “กวิน” ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “กวินทร์” ที่ได้มาจากคำแนะนำของ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี จากในกรณีหลังจากที่เจ้าตัวต้องประสบเคราะห์ได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ นั้นเอง

ปี พ.ศ. 2557  กวินได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมชุดเอเชียนเกมส์ 2014 จาก เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตนักฟุตบอลที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย จัดขึ้น ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ และยังได้เป็นตัวแทนผู้ถือธงชาติไทยนำคณะนักกีฬาไทยไปเปิดพิธีในเอเชียนเกมส์ในครั้งนี้อีกด้วย และในปีเดียวกันในช่วงปลายๆ ปี กวินได้เป็นกัปตันทีมชุดใหญ่ที่ไปคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 แทนที่ของนาย อดุล หละโสะ ที่ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ต่อมาในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 กวิน ได้เป็นส่วนหนึ่งช่วยทีมชาติไทยคว้าแชมป์ได้สำเร็จเป็น 2 สมัยติด

เกียรติประวัติ

ระดับสโมสร

ราชประชา

-ถ้วย ข. พ.ศ. 2550

เมืองทอง ยูไนเต็ด

-ไทยพรีเมียร์ลีก (4) : 2552, 2553, 2555 2559

-ถ้วย ก. (1) : 2553

-ไทยลีกคัพ (1) : 2559

-ไทยลีกดิวิชั่น 1 (1) : 2551

ทีมชาติไทย

-เอเชียนเกมส์ 2014 : อันดับ 4

-เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 : ชนะเลิศ

-ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 : รองชนะเลิศอันดับ 1

-ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 44 : ชนะเลิศ

-เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 : ชนะเลิศ

-ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 : ชนะเลิศ

-ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 : รองชนะเลิศอันดับ 1

ช่วง 1 เดือนแรกที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ได้บินไปอยู่ที่เบลเยียม

นายทวารหนุ่มทีมชาติไทยดาวรุ่งพุ่งแรงจนเป็นที่รู้จักกันดีของคนไทยทั้งประเทศ จากเดิมที่เคยเล่นให้กับทีม เมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ด จากการที่พึ่งได้เลื่อนชั่นมาอยู่ดิวิชั่น 1 ตองก็ได้ขึ้นมาเป็นมือหนึ่ง ด้วยฟอร์มการเล่นที่เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีใครเทียบได้ จากการที่ตองได้ทำหน้าที่ผู้รักษาประตูได้ดีมากๆ โดยเฉพาะการเซฟจังหวะสำคัญๆ จนทำให้เขาได้รับฉายาว่า “กวินบินได้” จากนั้นไม่นานตองก็ได้เลื่อนชั้นไปสูงลีกสูงสุดด้วยตำแหน่งแชมป์ และก้าวไปสู่แชมป์ไทยลีกในฤดูกาลถัดมา เรียกได้ว่าความโดดเด่นของตองไม่มีใครที่จะมาเทียบหรือแทนที่ได้

มาถึงในช่วงปี 2018 กวินก็สามารถทำได้ทุกแชมป์ในประเทศของตัวเอง และได้กลายเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของประเทศไทยแบบไร้ข้อกังขา ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ตองก็ได้ตัดสินใจที่จะรับความท้าทาย โดยการย้ายไปเล่นให้กับ โอเอช ลูเวิน ทีมในพร็อกซิมุส ลีกรองของเบลเยียม ซึ่งในช่วงที่กวินตัดสินใจเป็นอะไรที่ยากเหมือนกัน เนื่องจากเป็นการย้ายกลางฤดูกาล เพื่อที่จะแทรกตัวเข้าไปอยู่ในทีมให้ได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไหนจะต้องไปเจองานหินอย่างผู้รักษาประตูจากต่างชาติที่มีผีมือระดับโลกฟีฟ่าที่พึ่งไต่ไปถึงอันดับหนึ่งของโลกมาไม่นาน เมื่อเทียบอันดับระดับโลกฟีฟ่ากับผู้รักษาประตู กวิน อยู่ที่ร้อยกว่าๆ กันเลยทีเดียว

1 เดือนผ่านไป กวินทร์ ได้มีโอกาสในการลงเฝ้าเสาในเกมลีก และทำผลงานได้ดี ด้วยการ เสมอกับ เบียร์ช็อต วิลไรจ์ก 1-1 ส่งผลให้ทีมติดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์โดยที่ไม่ถูกยิงประตู (คลีนชีท) ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีและเร็วไม่น้อยกับการแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงสโมสรครั้งแรกในรอบ 10 ปี

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่าอันดับโลกของเรากับเบลเยียม มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงซึ่งไม่สามารถจะเอามาเปรียบเทียบกันได้ด้วยซ้ำ ซึ่งทาง กวินทร์ เองก็ได้ให้สัมภาษณ์กับคำถามเกี่ยวกับกระแสในเชิงลบของแฟนบอล ตองได้บอกมาว่า “ มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่จะมีคนไม่ชอบและดูถูกเรา โดยคำที่โดนกล่าวหาบ่อยๆ ก็คือ เอามาทำไม เล่นบอลเป็นรึป่าว ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะไม่ยอมรับเรา ซึ่งนั้นเป็นเรื่องท้าทายที่เราจะทำยังไง”

ผมจะทำให้พวกเขายอมรับผมในสนามให้ได้ ต้องพยายามให้มากขึ้น และทุ่มเท ทำงานหนักขึ้นเพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเองให้ได้ แน่นอนครับว่ามันไม่มีอะไรง่ายหลอก ดังนั้นเราต้องมีความขยันให้มากกว่าคนอื่นๆ เต็มที่ทุกครั้ง ส่วนเรื่องที่มีแฟนบอลที่ทั้งชอบและไม่ชอบตัวเรามันต้องมีอยู่แล้วไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม บางคนถึงขั้นไม่เปิดใจรับเราเลยก็มี ซึ่งมีทางเดียวที่เราทำได้คือผลงานในสนามให้มันเป็นเครื่องพิสูจน์เรา ดังนั้นถ้าผมมีโอกาสเมื่อไหร่ ผมจะเต็มที่กับมันทุกครั้ง

สำหรับเพื่อนๆ ร่วมทีมเราก็จะเป็นฝ่ายเปิดใจและเดินเข้าหาทุกครั้งที่ได้เจอกัน ผมจะพยายามยิ้มเข้าใสทุกคนก่อนเสมอ ให้เขามองเราว่าเราเป็นคนที่โอเค เป็นคนที่เฟรนด์ลี่ มีอัธยาศัยดี ผมเชื่อว่าถ้าเราได้คุยกันบ่อยขึ้นเจอกันมากขึ้นเขาก็จะเริ่มโอเคกับเราและเข้ามาทักทายเราเอง

เรื่องการปรับตัวสำหรับ 1 เดือนที่ผ่านมานี้

ถือว่าโอเคนะ เราสามารถปรับตัวได้ดีขึ้น คุ้นเคยกับทีมและเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น แต่เราไม่ได้สนิทกับทุกคนนะ ก็จะมีคนที่คุยเยอะด้วยอยู่ 2-3 คน

สำหรับเรื่องของการเล่นฟุตบอล ที่นี่เขาเล่นฟุตบอลโดยใช้จังหวะที่เร็วมาก อีกอย่างสนามของที่นี่ชื้นตลอดจะเรียกว่ามีฝนตกลงมาตลอดเลยก็ว่าได้มันเป็นเหมือนหิมะที่เป็นเกล็ดน้ำแข็งตลอดด้วยซ้ำ ทำให้บอลนั้นสามารถเดินทางได้เร็วมากขึ้น ถึงตัวเราเร็วมาก บางครั้งบอลแฉลบไปอีกทิศทางไปอีกทางอยู่บ่อยครั้ง ต่างกับที่ไทยที่สนามมีแต่หญ้าแห้งๆ ตลอกเวลาถ้าฝนไม่ตก ผมเลยต้องใช้เวลาปรับตัวเล่นให้ชินกับสนามให้ดีที่สุดและคอยหาเทคนิคเรียนรู้สไตล์การเล่นทีมคู่แข่งอีกด้วย เรียกว่าการได้ลงสนามทุกครั้งคือการเรียนรู้สำหรับผม

เป้าหมายในฤดูการแรกของตัวเอง

ผมพยายามที่จะไม่คาดหวังอะไรสูงมากจนเกินไป เพื่อที่จะไม่เป็นการกดดันตัวเอง ขอแค่ให้ตัวผมเองได้พัฒนาการเล่นในทุกๆ วัน และพยายามฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ทุกครั้ง เล่นด้วยความมั่นใจ เพราะผมไม่ได้มาเล่นที่นี่แค่คนเดียว แต่ผมมาเล่นที่นี่เพื่อประเทศไทย อีกอย่างหนึ่งผมอยากจะพิสูจน์ให้คนยุโรปและคนทั่วโลกได้รู้ว่า คนไทยก็สามารถเล่นฟุตบอลได้ดีเช่นกัน

อยากฝากอะไรถึงแฟนบอลชาวไทยบ้าง

อย่างแรกเลยผมอยากขอบคุณ ขอบคุณแฟนบอลชาวไทยทุกคนจริงๆ ครับ ที่ยังคงคอยตามเชียร์และให้กำลังใจกันมาตลอด ซึ่งพวกเขาคือกำลังใจสำคัญมากๆ สำหรับผม อย่างในนัดที่ผมได้ลงเล่นก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการเล่นช่วงดึก แต่ยังมีคนคอยเชียร์ผมอยู่ตลอด จนทางทีมงานถึงกับตกใจที่มีคนดูเราจากในยูทูบเยอะมาก ยอดวิวเป็นล้านกันเลยทีเดียว ซึ่งมันเยอะกว่าทีมใหญ่แข่งซะอีก ผมต้องขอขอบคุณจากใจจริงมากๆ ครับ

ต่อจากนี้ผมก็ขอให้แฟนบอลทุกคนเป็นกำลังให้ผมไปเรื่อยๆ นะครับ เพราะว่ามันเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับก้าวที่สำคัญของตัวผม เพราะผมได้ข้ามน้ำข้ามทะเลยมาอยู่ที่ต่างถิ่นต่างแดน อยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย ทั้งในเรื่องของที่อยู่อาศัย สังคม คนรอบข้าง แถมยังจะต้องเจอทั้งความกดดันรอบตัวต่างๆ รวมไปถึงอุปสรรคมากมาย เช่น เรื่องของอากาศ สภาพของสนาม สไตล์การเล่นฟุตบอลที่ไม่เหมือนกับที่ไทยเป็นต้น ซึ่งมีอยู่สิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะทำให้ตัวผมมีพลังที่จะสู้ต่อไปและก้าวผ่านมันไปได้ก็คือ กำลังใจจากแฟนบอลชาวไทยทุกคน ผมต้องขอขอบคุณแฟนๆ ที่ให้การสนับสนุนตัวผมมาตลอด และผมสัญญาว่า ในฐานะนักเตะคนไทย ผมจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดครับ

ผลงาน 1 ฤดูกาล ของนักฟุตบอลชาวไทยในเบลเยียม กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์

จากผลงานของผู้รักษาประตูที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากเท่าไหร่ ถึงแม้จะเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของประเทศไทย แต่ในสายตาของต่างชาติโดยเฉพาะประเทศเบลเยียม เราก็เป็นเสมือนนักฟุตบอลโนเนมคนหนึ่งที่ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่เมื่อเทียบกับนักฟุตบอลของประเทศนี้ โดยตัวของกวิน เองรู้สึกกดดันอยู่แล้วแต่ กวิน ก็จะใช้ความพยายามให้มากขึ้นเพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ยอมรับให้ได้ โดย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ กล่าวเอาไว้ว่า “ผมไม่ได้ไปเล่นในฐานะกวินทร์ แต่ผมไปเล่นในฐานะคนไทย” ซึ่งเป็นประโยคสั้นๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของนักฟุตบอลคนหนึ่งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดของประเทศไทย ที่กำลังจะไปเผชิญความท้าทายในต่างแดนด้วยการไปค้าแข่งในลีกยุโรป นับว่าเป็นเรื่องที่ยากมากในการปรับตัวกับสังคม ผู้คน และ อากาศ รวมไปถึงการใช้ภาษาในการสื่อสารอีกด้วยและเรื่องอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่มีใครรู้ ซึ่งกวินเป็นนักเตะไทยคนล่าสุดที่ได้ไปค้าแข่งในยุโรปให้กับสโมสรโอเอช ลูเวิน ที่เป็นทีมระดับดิวิชั่น 2 ของเบลเยียม ด้วยสัญญาการซื้อขาด 5 ปี ทำให้ตอนนี้ กวินทร์ กลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงมากที่สุดของนักเตะไทยก็ว่าได้

ถึงแม้ว่า กวิน กำลังเริ่มก้าวที่ 1 ในขนาดที่คนอื่นๆ ก้าวไปไกลกันมากแล้ว เหตุเพราะเราต้องเริ่มอะไรๆ ใหม่หมด จะมีก็แต่ความมั่นใจที่พกมาเต็มร้อย และเราเชื่อว่าเขาต้องทำมันได้สำเร็จอย่างแน่นอน โดยเกมแรกของ กวิน คือการได้ลงเล่นให้ทีมสำรองของ โอเอช ลูเวิน ที่เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ แชร์ก บรูช ซึ่งกวินก็ทำหน้าที่ตัวเองได้เป้นอย่างดีและประเดิมการเอาชนะอีกฝ่ายไปได้ 3-0 ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญก้าวแรกของ กวิน เลยก็ว่าได้

ในเรื่องของภาษาจริงๆ แล้วเขามีการใช้กันถึง 3 ภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาดัตช์ แต่ภาษาทางการจริงๆ เขาใช้ภาษาฝรั่งเศสกัน ซึ่งคนที่ส่วนใหญ่เขาจะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกัน ทำให้เกิดผลดีกับตัวกวินเอง เพราะกวินสามารถใช้การสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างไม่มีปัญหา

ก่อนที่จะลงสนามผมมีการเตรียมตัวโดยการโทรไปคุยกับพ่อและแม่ เพื่อขอกำลังใจจากคนในครอบครัว และผมจะสวดมนต์ทำสมาธิทุกครั้ง เพื่อให้ตัวเองรู้สึกสบายใจและสามารถคลายความกดดันได้เป็นอย่างดี

ส่วนเกมที่ผมประทับใจมากที่สุด เป็นเกมที่เปิดบ้านรับการมาเยือนของ วาสส์แลนด์ เบเวอเรน ถึงแม้จะมีผลเสมอ 0-0 ก็ตามแต่เกมนี้ตัวของผมเองได้เซฟเยอะมากๆ และก็ได้คำชมจากแฟนบอลที่มาเชียร์ข้างสนามพร้อมคำชมมากมาย บางคนถึงขั้นเรียกให้ผมไปถ่ายรูปด้วยก็มี ซึ่งเป็นนัดที่ช่วยสร้างกำลังใจให้ผมได้สู้ต่อไปได้เป็นอย่างดี และมันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผลงานที่เกิดขึ้นจะเป็นการส่งผลให้ผมได้รับโอกาสได้ลงสนามบ่อยครั้งมากขึ้น และในทุกครั้งที่ได้ลงสนามจะเป็นการพิสูจน์ให้ผู้รักษาประตูที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักคนนี้กลายเป็นที่ยอมรับได้เร็วมากขึ้น ซึ่งมันอาจจะต่อยอดให้ผมกลายเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรโอเอช ลูเวิน ได้อย่างเต็มตัว