Chat with us, powered by LiveChat ประวัติ เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าผู้พาจิ๊กจอกสยามคว้าแชมป์ปาฎิหาริย์ | สมัคร sbobet asia แทงบอลออนไลน์ โบนัส100%

ประวัติ เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าผู้พาจิ๊กจอกสยามคว้าแชมป์ปาฎิหาริย์

jamie-vardy-Striker-in-leicester-city

เจมี่ วาร์ดี้ พาเลสเตอร์ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2015/2016 อย่างน่าอัศจรรย์

เจมี ริชาร์ด วาร์ดี (Jamie Richard Vardy) เกิดเมื่อ 11 มกราคม 1987 มีอายุได้ 27 ปี โดยมีสถานที่เกิด เมือง เชฟฟิลด์ ประเทศ อังกฤษ มีส่วนสูง 178 ซม. เป็นคนสัญชาติ อังกฤษ ปัจจุบันเป็นนักเตะให้กับ สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ เล่นในตำแหน่ง กองหน้า

เมื่อจะพูดถึงนักเตะที่กำลังมีฟอร์มการเล่นดีและน่าจับตามอง ต้องมีนักเตะชื่อว่า เจมี วาร์ดี อย่างแน่นอน นักเตะร่างเล็กของทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เคยทำลายสถิติการทำประตูติดต่อกันของ รุด ฟาน นิสเตลรอย อดีตนักเตะของทีม แมนเชอร์เตอร์ ยูไนเต็ด ไปอย่างราบคาบ หลังเคยสร้างสถิติไว้อยู่ที่ 10 ประตูติดต่อกันในปี 2003

บ้านเกิดของ วาร์ดี อยู่ในเมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ อย่างที่เรารู้กันดีว่าเขาไม่ใช่กองหน้าที่มีรูปร่างได้รับความนิยมมากนัก เพราะเขามีส่วนสูงอยู่ที่ 5 ฟุต 10 นิ้ว เท่านั้น หรือประมาณ 178 ซม. จึงทำให้ตัวเขาต้องออกไปเล่นนอกลีก กับสโมสร สต๊อกส์บริดจ์ พาร์ค สตีลส์ ต่อมาในช่วงที่เขาก้าวเข้าสู่การเป็นวัยรุ่นเต็มตัวและมีความห้าวเป้งตามภาษาผู้ชาย ด้วยความที่เป็นคนรักเพื่อนมาก ทำให้ในช่วงตอนที่อายุ 20 ปี วาร์ดี ถูกดำเนินคดีทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกาย สาเหตุเกิดจากการเข้าไปช่วยและป้องกันเพื่อนหูหนวกที่กำลังถูกรังแก ทำให้ที่เขาลงสนามเราจะเห็นแท็ก ติดตามตัว ติดอยู่ที่ข้อเท้าของเจ้าตัวอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังโดนเคอร์ฟิว ที่ต้องกลับบ้านก่อน 6 โมงเย็น ซึ่งบางครั้งที่ลงเตะต้องขอให้โค้ชเปลี่ยนตัวเพื่อที่จะรีบกลับให้ถึงบ้านอย่างทันเวลา ถึงแม้ว่านักเตะรายนี้จะดูห้าวและมีข้อจำกัดในการเป็นลงสนามมากขนาดไหน ก็ไม่ใช้สิ่งที่จะหยุดความสำเร็จในอาชีพนักฟุตบอลได้

ประวัติการค้าแข้งของ เจมี่ วาร์ดี้

vardy-in-Halifax-Town-football-club

วาร์ดี้ กับทีมแรกของเขาอย่าง F.C. Halifax Town ทีมนอกลีกกึ้งอาชีพ

สต๊อกส์บริดจ์ พาร์ค สตีลส์

เจมี่ วาร์ดี้ เริ่มทำการค้าแข้งตั้งแต่เด็กกับทีมในชุดเยาวชนของ พาร์ค สตีลส์ ด้วยวัยเพียง 16 ปี ตั้งแต่ที่เขาได้ถูกปล่อยตัวมาจาก สโมสรฟุตบอลเชฟฟีลด์เวนส์เดย์ วาร์ดี้ ก็ทำผลงานได้ดีทำให้ผลักตัวเองขึ้นไปอยู่ในทีมสำรอง จนไปถึงทีมชุดใหญ่ ในปี 2007 โดยมี แกรี่ มาร์โรว์ เป็นผู้คุมทีมในเวลานั้น

vardy young man football club super striker

vardy young man football club super striker

ฮาลิแฟกซ์ ทาวน์

ในปี 2010 เจมี่ วาร์ดี้ ได้เข้ามาร่วมทีมกับ ฮาลิแฟกซ์ ทาวน์ ของ นีล แอสพิน โดยการลงประเดิมนัดแรกด้วยการทำประตูชัยให้กับทีม และพาทีมของตัวเองเฉือนเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 ลูก หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ประสบความสำเร็จโดยการทำประตูรวมทั้งหมดได้ 27 ประตู และยังได้รับการถูกโหวดให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีประจำสโมสร

ฟลีตวู้ด ทาวน์

ในช่วงที่เริ่มซีซั่น 2011-2012 ที่เจ้าตัวได้ลงสนามให้กับ ฮาลิแฟกซ์ ทาวน์ 4 นัด รวมการทำประตูได้ 3 ประตู เจมี่ วาร์ดี้ ก็ถูกดึงตัวมาร่วมทัพกับ ฟลีตวู้ด ทาวน์

แบบที่ยังไม่มีการเปิดเผยค่าตัว เมื่อจบฤดูกาล วาร์ดี้ กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลีก และยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม คอนเฟอเรนซ์ เนชั่นแนล ประจำเดือน พฤศจิกายน โดยรวมสถิติ 36 นัด 31 ประตู

เลสเตอร์ ซิตี้

ในช่วงซีซั่น 2012-2014 เจมี่ วาร์ดี้ ได้ย้ายมาร่วมทีมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีค่าตัวอยู่ที่ 1.7 ล้านปอนด์ โดยมีการเซ็นสัญญาถึง 3 ปี ถึงแม้ว่าในช่วงแรกๆ จะมีฟอร์มการเล่นที่ไม่ดีนัก แต่ทว่า เมื่อเจ้าตัวปรับตัวได้ก็คืนฟอร์มได้อย่างลงตัวทำให้ในช่วงซีซั่น 2014-2015 วาร์ดี้ก็สามารถกลับมายิ่งได้แบบทล่มทลายอีกครั้ง และยังพาทีมเลื่อนชั้นในพรีเมียร์ลีก ในฐานะแชมป์เปียนชิพอีกด้วย

ซีซั่น 2015-2016 เป็นฤดูกาลแห่งประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ เนื่องจาก เจมี่ วาร์ดี้ นำทีมเลสเตอร์ ซิตี้ เข้าร่วมลุยในศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกันของสโมสรเช่นเดียวกันกับ เอฟเอคัพ และ ลีกคัพ และที่สำคัญเป็นฤดูกาลที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 132 ปี โดยนับตั้งแต่ที่ได้มีการก่อตั้งสโมสรมา ก่อนหน้าที่จะมีการเปิดฤดูกาล เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ถูกบริษัทรับพนันทายผลฟุตบอล (ถูกกฎหมาย) ของประเทศอังกฤษเปิดราคาต่อรองให้ทีมเป็นแชมป์อยู่ที่ 1 ต่อ 5,000 เลยที่เดียว

ระดับทีมชาติ

วาร์ดี้ มีรายชื่อติดทีมชาติครั้งแรกในศึกยูโร 2016 และถูกเรียกตัวรับใช้ชาติอีกครั้งในฟุตบอลโลกปี 2018 ที่จัดขึ้นในประเทศรัสเซีย

เกียรติประวัติของ Jamie Richard Vardy

jamie vardy number nine striker in leicester city club

jamie vardy number nine striker in leicester city club

ฮาลิแฟกซ์ ทาวน์

  • พรีเมียร์ลีกตอนเหนือ 2010-2011

ฟลีตวู้ด ทาวน์

  • คอนเฟอเรนซ์ พรีเมียร์ 2011-2012

เลสเตอร์ ซิตี้

  • ฟุตบอลลีกแชมเปี้ยนชิพ 2013-2014
  • แชมป์ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2015-2016

รางวัลส่วนตัว

พรีเมียร์ลีกนักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล 2015-2016

นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของ FWA:2015-2016

ทีมพรีเมียร์ลีก PFA แห่งปี:2015-2016

ชายผู้ทำให้ชีวิตของ เจมี่ วาร์ดี้ เปลี่ยนไป

vardy-and-vichai-in-leicester-city

วาร์ดี้ กับ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ถ่ายภาพคู่กัน โดยวาร์ดี้นับถือคุณวิชัยดั่งพ่อคนที่สอง

เจมี่ วาร์ดี้ นับว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่สู้ชีวิตอย่างมาก เขาเริ่มจากเด็กชายคนหนึ่งที่บ้าคลั่งฟุตบอลเหมือนเด็กคนอื่นๆ ในประเทศอังกฤษ เขาเริ่มจากการลงเล่นเป็นนักฟุตบอลกึ้งอาชีพ กับ ฮาลิแฟกซ์ ทาวน์ ซึ่งเป็นทีมนอกลีก ซึ่ง เจมี่ วาร์ดี้ สามารถพาต้นสังกัดเลื่อนชั้น จนเข้าสู่ดิวิชั่น 5 หรือลีกสูงสุดของฟุตบอลกึ้งอาชีพของอังกฤษ ก่อนที่จะเลื่อนขั้นเข้าสู่ ลีก ทู

จนในปี 2011-2012 เจมี่ วาร์ดี้ ตัดสินใจอำลา ฮาลิแฟกซ์ ทาวน์ ย้ายเข้าสู่ ฟลีตวู้ด ทาวน์ โดยลงเล่นไปทั้งหมด 36 นัด ยิงไป 31 ประตู เรียกได้ว่าอยู่ในฟอร์มที่สุดยอดมากๆ จนที่เป็นสนใจของ สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ จิ๊กสยามภายใต้การดูแลของ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา และนั้นทำให้ชีวิตของ วาร์ดี้ เปลี่ยนไปจากที่เคย

เจมี่ วาร์ดี้ ตัดสินใจจรดปากกาย้ายเข้าสู่ เดอะ ฟ็อก ในปี 2012-2013 ในลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ โดยในช่วงแรกที่ย้ายเข้าสู่ รั่วเดอะ ฟ็อก วาร์ดี้ ยังปรับตัวไม่ค่อยได้ เนื่องจากเป็นเพราะสัญญานักเตะอาชีพเต็มตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ วาร์ดี้ จะได้รับสัญญากึ้งอาชีพเท่านั้น ทำให้ด้วยเงินคาเหนื่อยที่เยอะกว่าที่เคยได้รับ ส่งผลให้วาร์ดี้เปลี่ยนไป เขาเริ่มดื่มเหล้าและเที่ยวมากขึ้น มีสภาพร่างกายที่ไม่ฟิต เมามาซ้อม ส่งผลให้ คุณต๊อบ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ตัดสินใจเข้าพบกับ วาร์ดี้ เป็นการส่วนตัว โดยเขาพูดคุยกับ เจมี่ ว่าต้องการเป็นเช่นนี้จริงๆ แล้วจบเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลด้วยอายุแค่นี้จริงๆ หรือไม่ หากต้องการเช่นนั้น หลังหมดสัญญานี้เขาจะตัดสินใจไม่ต่อสัญญา วาร์ดี้ ออกไป ด้วยคำพูดเช่นนี้ทำให้ วาร์ดี้ ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง เลิกดื่มเหล้าและตั้งใจฝึกซ้อมมากยิ่งขึ้น ฟิตร่างกายมากขึ้น และสุดท้ายแล้วชีวิตของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

ก่อนที่จะพา จิ้งจอกสยาม เลื่อนชั้นมายังลีกสูงสุดของเกาะอังกฤษได้สำเร็จ อย่าง พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จในปี 2014-2015 แต่ปีแรกของ วาร์ดี้ บนเวที พรีเมียร์ลีก ไม่สดใสมากนัก เพราะพวกเขาต้องดิ้นรนหนีตกชั้น ก่อนที่จะจบที่อันดับ 14 รอดจากการตกชั้นได้แบบหวุดหวิด ก่อนที่ในฤดูกาลถัดมา วาร์ดี้ สามารถพา เลสเตอร์ ซิตี้ สร้างนิยายของตัวเองได้สำเร็จ เรื่องราวที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ด้วยการพาทีมเต็ง 1 ที่จะตกชั้น ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ เป็นเรื่องจริงที่เหมือนความฝันสุดๆ ในเวลานั้น วาร์ดี้ มีส่วนสำคัญอย่างมากๆ ที่ช่วย เลสเตอร์ คว้าแชมป์ ด้วยการยิงไปถึง 24 ประตู จาก 36 นัด

เจมี่ วาร์ดี้ได้ต่อสัญญากับเลสเตอร์ถึงปี 2022 อยู่เป็นตำนานจิ้งจอกสยาม

ดาวยิงทีมชาติอังกฤษได้เซ็นต์สัญญาเป็นทางการ ฝากอนาคตไว้กับ เลสเตอร์ซิตี้ อีก 4 ปี ไปจนถึงปี 2022 ซึ่งดาวยิงวัย 31 ได้เข้ามาร่วมทีมกับ เลสเตอร์ ตั้งแต่ปี 2012 ที่สามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ เดอะแชมเปี้ยนชิพ และ พรีเมียร์ลีก ได้อย่างละ 1 สมัย จาก 234 เกม เจ้าตัวทำประตูได้ 88 ประตู และยังรั้งอันดับดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร ซึ่งการต่อสัญญานี้หมายความว่า เจมี่ วาร์ดี้ จะได้อยู่เล่นให้กับสโมสรครบ 10 ปี พอดิบพอดี หากเจ้าตัวอยู่เล่นครบตามที่ได้ทำสัญญาเอาไว้

เจมี่ วาร์ดี้ เขียนประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกด้วยตัวเอง

Leicester-City-and-Jamie-Vardy-English-Premier-League-football-winner

เจมี่ วาร์ดี้ พาเลสเตอร์ซิตี้ ผงาดคว้าแชมป์ได้สำเร็จ หลังจบฤดูกาลที่ 2015-2016

กองหน้าร่างเล็กของจิ้งจอกสยามได้ทำการจารึกสถิติใหม่ในพรีเมียร์ลีกแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน โดยการทำประตูใส่ทีมยักษ์ใหญ่อย่างเรือใบสีฟ้า ณ สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม

วาร์ดี้ ดาวยิ่งของทีมเลสเตอร์ซิตี้ ถูกจารึกเป็นประวัติศาสตร์ให้เป็นนักเตะคนแรกที่สามารถยิง 6 ทีม ยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกในเวลาเดียวกัน

นับว่าเป็นนักเตะที่มีส่วนช่วยทีมมากโดยการพาทีมบุกพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ไป 5-1 อย่างไรก็ตาม ประตูที่ว่ามานี้มันมีความหมายกับการสร้างสถิติใหม่ให้กับเจ้าตัวเป็นอย่างมาก เพราะเป็นประตูสร้างสถิติที่ไม่เคยมีนักเตะคนไหนทำได้มาก่อน เนื่องจากก่อนหน้านี้กองหน้าจิ้งจอกสยามได้พังประตูทีมใหญ่ๆ อย่าง อาร์เซนอล, แมนฯยู, ลิเวอร์พูล, สเปอร์ส และ เชลซี มาหมดแล้วในฤดูกาลนี้ แล้วเมื่อนำไปรวมกับประตูที่พบกับแมนฯ ซิตี้ ทำให้ วาร์ดี้ กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูทีมในกลุ่มบิ๊กซิกซ์ครบทุกทีมในช่วงของฤดูกาลเดียวกัน

เจมี่ วาร์ดี้ ขออำลากับทีมชาติอังกฤษอย่างเป็นทางการแล้ว

วาร์ดี้ ดาวยิงจากเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ออกมายืนยันกับ ผู้จัดการทีม แกเร็ธ เซาธ์เกต ของทีมชาติอังกฤษ เพื่อที่จะแจ้งให้ทราบในเจต จํานงค์ ในการตัดสินใจที่จะเลิกเล่นให้กับทีมชาติ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้แก่นักเตะรุ่นใหม่ๆ ได้เข้ามารับใช้ชาติแทนบ้าง โดยที่ดาวยิงวัย 31 ปี คนนี้จะได้ลงเล่นให้กับทัพสิงโตคำรามเป็นครั้งแรกในปี 2015 แต่เขาก็ฝากผลงานในการรับใช้ชาติได้เป็นอย่างดี โดยการลงเล่นทั้งหมด 26 นัด และสามารถทำประตูไปได้ 7 ประตู ล่าสุดหัวหอกทีมจิ้งจอกสยามได้รวมทัพกับสิงโตคำรามและทำผลงานออกมาได้ดี โดยการไปคว้าอันดับที่ 4 ของศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านมา

เจมี่ วาร์ดี้ ยอดนักเตะเลสเตอร์ ซิตี้ ทำให้โลกต้องอิจฉา เมื่อได้เห็น รีเบ็คก้า ภรรยาของวาร์ดี้โชว์นู้ดแบบจัดเต็มผ่านทางอินสตาแกรม งานดีจน ไอจี ลุกเป็นไฟ

รีเบ็คก้า ภรรยาสุดเลิฟของ เจมี่ วาร์ดี้ ยอดนักเตะดาวยิงตัวเก่ง ของทีม จิ้งจอกสยาม “เลสเตอร์ ซิตี้” ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นปรี้ด หลังจากที่แม่ทูนหัวของนักเตะเมืองผู้ดี ที่อยู่ดีๆ ก็สลัดผ้าถ่ายนู้ดสุดเซ็กซี่ พร้อมอัพลงในไอจีทำเอาผู้คนที่ติดตามเลือดกำเดาพุ่งไปตามๆ กัน

เมื่อแฟนสาวคนสวยของ วาร์ดี้ เปลือยผ้าชนิดที่เรียกได้ว่า ไม่มีหลงเหลือแม้แต่ชิ้นเดียว พร้อมด้วยการนั่งโพสต์ท่านั่งอยู่บทเก้าอี้สุดมั่น ที่เธอนั้นมีเทคนิคในการนั่งที่จะทำให้รูปออกมาไม่สื่อไปในทางอนาจาร โดยการนั่งแบบชันเข่าขึ้นเล็กน้อยในมุมข้าง เพื่อเป็นการปิดสามเหลี่ยมทองคำไม่ให้ใครเห็นและใช้แขนพาดไปที่เข่าเพื่อไม่ให้จุกโผล่พอได้เห็นเนินอกนิดหน่อย

ถึงแม้ว่ารูปดังกล่าวจะดูไม่ได้โป้มากจนเกินไป เพราะเน้นการเปิดจุดสำคัญอย่างมิดชิด แต่นั้นก็ไม่พ้นดราม่า ด้วยท่าทางและหุ่นสุดเซ็กซี่ที่มาพร้อมเนินอกสุดสะบึ้มจึงทำให้ภาพดูร้อนแรง โดยภาพนี้ รีเบ็คก้า ได้ระบุข้อความบรรยายไว้ใต้รูป ดังนี้ “งานประกาศรางวัลทีวี ชอยซ์ อวอร์ด ค่ำคืนนี้ (วันอังคาร)  & ไม่มีชุดใส่…..”

ด้วย IG ส่วนตัวของ รีเบ็คก้า ที่มียอดผู้ติดตามมากถึง 364,000 คน ทำให้เหล่าบรรดาแฟนคลับได้ออกมาแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นาๆ กันยกใหญ่ ทั้งในเรื่องของชุดรวมไปถึงการแซวถึงแฟนหนุ่ม วาร์ดี้  ที่ออกแนวในทางอิจฉาเจ้าตัวเป็นอย่างมาก ที่มีแฟนสวยและเซ็กซี่ขนาดนี้

หลังจากที่ได้สร้างกระแสและเป็นที่ฮือฮาอยู่พักใหญ่ อดีตสตาร์ I’m A Celebrity… Get Me Out of Here ที่เป็นรายการเรียลลิตี้ ชื่อดัง ได้ไปปรากฏตัวที่โรงแรมดอร์เชสเตอร์ เพื่อเข้าร่วมงาน ทีวี ชอยซ์ อวอร์ด ในชุดเดรสสีเหลืองอร่ามตาสะกดสายตา ด้วยการโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งของเรือนร่างได้เป็นอย่างดี